กิจกรรมดีๆ กับ Night Safari เชียงใหม่

วันนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน (The Thailand Community Based Tourism Institute : CBT-I) ร่วมกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และคณะอาจารย์จากหลายมหาวิทยาลัยได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาในชื่อกิจกรรม “อยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคนท้องถิ่นสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและชุมชนมีส่วนร่วม” ฟังชื่ออาจจะดูยาวแต่โดยนัยของการทำกิจกรรมนี้คือการนำเอาชุมชนโดยรอบเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจำนวน 1000 คน เข้ามาเยี่ยมชมแบ่งออกเป็น 4 รอบๆละ 200 คน โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 จำนวนชุมชนจำนวน 200 คนจาก 4 ตำบลๆละ 50 คน ได้แก่ ตำบลสุเทพ ตำบลบ้างปง ตำบลหนองควาย และตำบลแม่เหียะ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเรื่องการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม กิจกรรมคือฉายวิดิทัศน์ของไนท์ซาฟารี ให้ผู้นำแต่ละตำบลนำเสนอของดีประจำตำบลเพื่อแลกเปลี่ยนและทราบร่วมกัน ต่อจากนั้นแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม และการนำกลุ่มชุมชนเข้าเยี่ยมชมไปตามสถานีจำนวน 7 สถานีได้แก่ โรงพยาบาลสัตว์ เตาเผาขยะ ยีราฟ ฮิปโป ช้าง North zone และกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา หลังจากนั้นจึงสรุปสิ่งที่ได้จากการเข้าไปศึกษาเรียนรู้ร่วมกันโดยกลุ่มพี่เลี่ยงของแต่ละกลุ่ม

จากที่ได้เข้าไปทัศนะศึกษาในสถานีต่างๆ ของไนท์ซาฟารีพบว่า ที่นี้มีการบูรณาการองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อบริหารจัดการภายในได้อย่างดีเช่น การนำเอามูลสัตว์มาทำเป็นปุ๋ยทั้งในรูปของเม็ดและธรรมดาบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายให้กับชุมชนภายนอกถึงแม้ยังอยู่ในระหว่างการเริ่มทำก็เห็นเป็นรูปธรรมจากที่ผ่านมาได้นำมาใช้ในไนท์ซาฟารีอยู่แล้ว นอกจากนี้มีกระบวนการจัดการขยะทีีมีประสิทธิภาพคือจะมีการคัดแยกขยะที่ขายได้ออกก่อน ที่เหลือจึงนำมาเผาในเตาเผาขยะที่ใช้พลังงานจากแก็สหุงต้มที่มีประสิทธิภาพสูงคือสามารถใช้เผาขยะจำนวน 3 ตันได้ภายใน 1 วัน และมีค่าใช้จ่ายต่ำเพียง 39 บาทต่อวัน (แก๊ส 1ถังจะใช้ประมาณ 2 เดือน) ซึ่งสามารถเผาได้ทั้งขยะแห้งและขยะเปียก ส่วนที่ได้จากการเผาขยะจะนำไปทำปุ๋ยต่อไป

 

 

 

 

 

กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดีกิจกรรมหนึ่งที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมทำในแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนจะทำให้การท่องเที่ยวเกิดความยั่งยืนเพราะเกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนทำให้การร่วมกันของทุกฝ่ายในพื้นที่มีประสิทธิภาพ เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนคู่กับจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป